วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วัดหินหมากเป้ง

 
   


วันนี้มาแนะนำสถานที่ปฎิบัติธรรมอีกแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับไปพักปฏิบัติธรรมเป็นครั้งคราว ในบรรยาศที่สงบสวยงาม นั้นก็คือ... "วัดหินหมากเป้ง"  นั่นเองค่ะ


วัดหินหมากเป้ง

ที่ตั้ง  วัดหินหมากเป้ง ตั้งอยู่ที่บ้านไทยเจริญ หมู่ 4 ต. พระพุทธบาท  อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย 43130  ซึ่งเป็นวัดที่ หลวงปู่์เทสก์ เทสรังสี ได้พัฒนาและริเริ่มจัดตั้งให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของภิกษุสงฆ์ แม่ชี นักภาวนา รวมถึงผู้แสวงบุญทั้งหลาย  บริเวณวัดร่วมรื่นด้วยป่าไม้นานาชนิด สัปปายะมาก มีด้านหนึ่งติดลำน้ำโขง สะอาด สวยงาม อากาศดีมาก เงียบสงบ แม้ว่าจะมีคนเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นระยะๆ แต่ก็มีหลายจุดให้หลีกเร้นภาวนาได้เป็นอย่างดี


ประวัติ   คำว่า หินหมากเป้ง เป็นชื่อหิน 3 ก้อน ซึ่งตั้งเรียงรายกันอยู่ริมฝั่งโขงที่หน้าวัดซึ่งมีลักษณะคล้ายลูกตุ้มเครื่องชั่งทองคำสมัยเก่า ซึ่งคำว่าหมากเป้งเป็นภาษาของคนภาคนี้ มีคนแก่เล่าปรัมปราสืบกันมาว่า.. หินก้อนที่ 1 เป็นของหลวงพระบาง  หินก้อนที่ 2 เป็นของบางกอก ส่วนหินก้อนที่ 3 เป็นของเวียงจันทร์


แนวทางปฎิบัติ  เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการปฎิบัติอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่ให้ปฎิบัติด้วยตนเอง เนื่องจากไม่ใช่สถานที่สอนการปฎิบัติธรรมแบบเป็นคอร์ส จึงไม่มีผู้นำปฎิบัติ  อย่างไรก็ตามหากผู้ที่ไปภาวนา เกิดปัญหาหรือข้อสงสัยในการปฎิบัติ สามารถขอคำแนะนำจากพระภิกษุหรือแม่ชีได้ตามความเหมาะสม ซึ่งที่นี้พระภิกษุปฏิบัติภาวนาตามแนวทางของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ภาวนาบริกรรม “พุทโธ  ท่านสามารถขอพักอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ ตามที่เจ้าอาวาสอนุญาต


การขอเข้าปฎิบัติ สามาถเขียนจดหมายแจ้งขอเข้าพักปฎิบัติล่วงหน้า โดยจ่าหน้าซองถึงเจ้าอาวาส ส่งไปตามที่อยู่วัด หรือหากไม่สะดวกก็สามารถเดินทางไปก่อน แล้วจึงกราบเจ้าอาวาสแล้วแจ้งขอพักปฎิบัติอีกที โดยถ้าเป็นผู้หญิงจะมีแม่ชี (แม่ชีรุ่ง) คอยดูแลหาที่พักให้ ส่วนเบอร์โทรศัพท์บ้าน ทางวัดเลิกใช้แล้ว เปลี่ยนมาใช้มือถือแทน (ไม่ได้ขออนุญาตจึงไม่ลงเบอร์โทรในที่นี่ ^^)


การเดินทาง
             การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ขับรถไป จ. หนองคาย แล้วขับต่อไปยัง อ.ศรีเชียงใหม่ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 211 (หนองคาย-ศรีเชียงใหม่) วัดหินหมากเป้งจะอยู่ทางขวามือประมาณหลักกิโลเมตรที่ 64 ริมถนนด้านขวามือ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 75 กิโลเมตร หรืออยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 30 กิโลเมตร
             การเดินทางโดยรถทัวร์จากกรุงเทพ   ขาไปจากกรุงเทพฯโดยรถทัวร์ ให้ขึ้นที่หมอชิตใหม่ รถสายกรุงเทพฯ-ศรีเชียงใหม่ ของบริษัทอะไรก็ได้ เช่น บารมีทัวร์, 407, บุษราคัมทัวร์, ศรีเชียงใหม่ทัวร์  ค่ารถประมาณ 497 บาท ( ธ.ค. 54) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชม.   ขากลับ หน้าวัดจะมีที่ขายตั๋วรถเมล์ไปกรุงเทพฯ มีตั๋วรถทุกวัน วันละ 1 เที่ยว เวลา 18.30 น. (ควรออกมาจองก่อนในเช้าวันที่จะกลับ) หรือ หากต้องการกลับเวลาอื่น ก็ต้องนั่งรถเมล์ไปที่ บขส. อ.ศรีเชียงใหม่ เพื่อไปจอง/ซื้อตั๋ว
             การเดินทางโดยเครื่องบิน  ค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะต้องลงที่อุดรธานี แล้วต่อรถทัวร์เข้าจ.หนองคาย แล้วต้อง ต่อรถเข้าศรีเชียงใหม่อีกที


ที่พัก ที่พักมีกุฏิจำนวนมาก กุฎิเดี่ยว และกุฎิรวม หรือบางกุฎิที่แบ่งออกเป็นสองห้อง ซึ่งผู้ภาวนาสามารถเลือกพักได้ตามจริตนิสัย มีห้องน้ำในตัว มีน้ำ ไฟ มีระเบียงเบียงให้เดินจงกรมได้ (บางกุฎิ) มีอ่าล้างจาน ที่ตากผ้า สะดวกสบาย


การแต่งกาย โดยปกติแต่งกายตามแนวทางของวัดป่า สำหรับผู้เข้าพักปฎิบัติธรรม คือ เสื้อขาว กางเกง(ผ้าถุง)ดำ อย่างไรก็ตามสามารถแต่งชุดขาวทั้งชุดได้  ทางวัดไม่มีชุดไว้ให้ ผู้จะเข้าปฏิบัติต้องเตรียมชุดเตรียมไปเอง


ตารางกิจกรรม 
 03.00       ลุกขึ้นทำความเพียรส่วนตัว
 05.00       โรงครัวเตรียมอาหาร (ผู้ขอพักปฎิบัติธรรมชั่วคราวไม่ต้องทำครัวก็ได้)
 06.00       ผู้เข้าปฎิบัติธรรมไปตักอาหารในโรงครัวใส่ภาชนะเก็บไว้ทานเป็นอาหารเช้า-เที่ยง  โดยทางโรงครัวจะทำอาหารแยกไว้สำหรับถวายพระภิกษุส่วนหนึ่ง สำหรับฆราวาสส่วนหนึ่ง (เนื่องจากหากรอตักอาหารหลังพระภิกษุฉันเรียบรอยแล้ว อาจจะไม่เหลือให้ทาน เนื่องจากชาวบ้านจะตักอาหารกลับบ้านหมดก่อน)
 08.00       ถวายอาหารพระภิกษุ และระหว่างภิกษุฉันอาหาร แม่ชี ผู้ปฎิบัติธรรมและฆราวาสจะร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเช้า   
 15.00       ตีระฆัง พระภิกษุกวาดลานวัด ผู้ปฎิบัติธรรมอาจจะทำความสะอาดกุฎิตนเอง หรือ ไปช่วยโรงครัวเตรียมของสำหรับทำอาหารในวันพรุ่งนี้ก็ได้
 18.00       ตีระฆัง ทำวัตรเย็นร่วมกันที่ศาลาใหญ่ ทั้งพระภิกษุ แม่ชี และผู้ปฎิบัติธรรมทั้งหลาย หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จ พระภิกษุจะพานั่งสมาธิ จนถึง 3 ทุ่ม  จึงแยกย้ายกลับกุฎิ

** เวลาอื่นๆที่เหลือเป็นเวลาสำหรับปฎิบัติด้วยตัวเอง หรือทำกิจส่วนตัว


อื่นๆ หากเป็นหน้าหนาว อากาศจะหนาวมาก ให้เตรียมเสื้อกันหนาวอุ่นๆ ถุงเท้า และหมวกไหมพรมไปด้วย  และควรเตรียมยากันยุงแบบทาหรือแบบฉีดไปด้วย ส่วนไฟฉายถ้ามีก็จะดี แต่หากไม่มีก็ไม่เป็นไร เนื่องจากตอนกลางคืน มีเสาไฟเปิดไปตามทางเดินกลับกุฎิเป็นระยะ  หากมีความจำเป็นต้องซื้อของใช้ส่วนตัว หรืออาหารการกิน สามารถเดินออกไปซื้อได้ที่ร้านขายของชำหน้าวัด

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

9 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28 สิงหาคม 2555 เวลา 16:59

    ไปคนนเดียวได้มั๊ยคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ7 กันยายน 2555 เวลา 03:57

      ไปด้วยกันไหมคะ?

      ลบ
    2. อยากไปจังค่ะ เคยไปกราบพระ และชมวัดครั้งนึง ประทับใจ คงต้องรอลูกโตสักหน่อย

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ29 มกราคม 2556 เวลา 08:11

    วัดแถวบ้านผมครับ วันที่17-19 ธ.ค.ของทุกปี มีงานครบรอบวันมรณภาพของหลวงปู่เทศก์ เทสรังสี ตักบาตรที่วัดสองวัน18-19 โรงทานเยอะ ที่สำคัญคือหนาวมาก

    ตอบลบ
  3. อยากไปคนเดียวจะได้รึเปล่าคะ

    ตอบลบ
  4. ถ้าไปช่วงเดือนพค.60ที่จะถึงสะดวกมั้ยคะทางวัดมีกิจกรรมอะไรมั้ยคะ

    ตอบลบ
  5. ออกพรรษานี้ อยาจะไปปฏิบ้ติธรนมค่ะ ต้องทำอย่างไรคะ ติดต่อที่ไหนคะ รบกวนด้วยค่ะ

    ตอบลบ
  6. ได้อ่านระเบียบขั้นตอน การเดินแล้ว น่าสนใจมากๆ เแนสถานที่ ปฏิบัติธรรมที่ดีมาก มีโอกาสขอเขาไปเจริญธรรม สักครั้ง

    ตอบลบ
  7. เร๋วๆนี้จะเข้าไปปฏิบัติธรรมค่ะ💐🙏🏽

    ตอบลบ